สาระน่ารู้

  • /
  • สาระน่ารู้ /
  • Checklists เลือกซื้อบ้านพร้อมอยู่อย่างไร ไม่ให้เสียใจภายหลัง

Checklists เลือกซื้อบ้านพร้อมอยู่อย่างไร ไม่ให้เสียใจภายหลัง

Checklists เลือกซื้อบ้านพร้อมอยู่อย่างไร ไม่ให้เสียใจภายหลัง

Checklists เลือกซื้อบ้านพร้อมอยู่อย่างไร ไม่ให้เสียใจภายหลัง


การจะซื้อบ้านพร้อมอยู่ หรือ บ้านจัดสรร รวมถึงทาวน์เฮ้าส์ ที่อยู่ในโครงการ นอกจากดูฟังก์ชันและรูปทรงบ้านที่ชอบแล้ว ยังควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ และการอยู่อาศัยอย่างสงบสุขในระยะยาว AJ Home Center ชวนมาดูเช็กลิสต์การเลือกบ้านพร้อมอยู่ให้เหมาะกับคุณที่สุด


1.ทำเลที่ตั้ง

ทำเลบ้านที่ดีนั้นสามารถช่วยทั้งประหยัดเงินและสร้างรายได้ที่ดีได้ในอนาคต โดยทำเลที่ควรเลือกนั้นควรพิจารณาถึงความสะดวกในการเดินทาง หรือหากกรณีไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางด้วยระบบคมนาคมอื่นได้สะดวก นอกจากนี้อย่าลืมพิจารณาการพัฒนาโครงการของทั้งรัฐบาลและเอกชนในอนาคต เช่น โครงการก่อสร้างทางด่วนในอนาคต ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าหรือโครงการสร้างศูนย์การค้า ก็ล้วนแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าของบ้านได้เป็นอย่างดี ทั้งในกรณีที่ต้องการจะขายหรือปล่อยเช่าเพื่อเป็น Passive Income รวมถึงการเช็กประวัติน้ำท่วมด้วย


2.บริบทและสถานที่โดยรอบ

สถานที่สำคัญใกล้บ้านนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าใกล้จนเกินไปก็ไม่ใช่จะดีเสมอไป อาทิ หมู่บ้านที่อยู่ติดกับโรงเรียนซึ่งทุกเช้าก็จะต้องได้ยินเสียงร้องเพลงชาติและเสียงกริ่งเลิกชั้นเรียนดังทุกชั่วโมง หรือหมู่บ้านที่ติดกับวัดก็ต้องฟังเสียงสวดมนต์ไปด้วย รวมไปถึงควรอยู่ห่างไกลแหล่งทิ้งขยะที่มักนำพาปัญหาความสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยเข้ามาในโครงการให้หงุดหงิดใจ ดังนั้น การเลือกบ้านจัดสรร ที่ดีควรอยู่ในพื้นที่ที่มีความสงบ หากเช็กในผังเมืองควรอยู่ในโซนที่อยู่อาศัย และเว้นระยะจากสถานที่ต่างๆ อย่างเหมาะสม


3.พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการกลายเป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญของโครงการบ้านพร้อมอยู่ โดยเฉพาะกับวิถีชีวิตตั้งแต่เกิดเหตุการณ์การระบาดของโควิด – 19 ที่หลายคนใช้เวลาในการอยู่บ้านมากขึ้น          การที่โครงการนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันย่อมดีกว่าการต้องเดินทางออกไปใช้บริการข้างนอก โดยพื้นที่ส่วนกลางที่นิยมนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านพร้อมอยู่ ได้แก่ สระว่ายน้ำ การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ฟิตเนส ห้องประชุม Co-working Space พื้นที่สีเขียว ทางเท้า และขนาดถนนภายในโครงการ


4.ระบบน้ำประปาและไฟฟ้า

ระบบน้ำประปา  ตรวจสอบขนาดถังเก็บน้ำว่าเพียงพอต่อการใช้น้ำต่อวันในกรณีที่ทุกคนในบ้านใช้น้ำพร้อมกัน โดยควรเตรียมฐานคอนกรีตเสริมเหล็กสำหรับวางถังน้ำ และเมื่ติดตั้งปั๊มน้ำที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ความดันน้ำที่สม่ำเสมอขณะใช้งาน โดยสำหรับบ้าน 1-2 ชั้น แนะนำเป็นปั๊มน้ำกำลัง 150-250 วัตต์ ที่สามารถเปิดก็อกน้ำพร้อมกันได้ 4-7 ตัว

ระบบไฟฟ้า โดยปกติบ้านทั่วไปจะติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า 1 เฟส ซึ่งเป็นมิเตอร์ขนาด 5(15) A แต่หากเป็นบ้านพร้อมอยู่หลังใหญ่ที่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศพร้อมกันหลายๆ เครื่อง มีเครื่องชงกาแฟหรือเตาอบขนาดใหญ่ ควรพิจารณามิเตอร์ 1 เฟส ขนาด 15(45) ที่สามารถจ่ายกำลังไฟสูงกว่า


5.การดูแลหลังการขายและนิติบุคคล

เมื่อซื้อบ้านหลังหนึ่งแล้วไม่ได้จบเพียงแค่นั้น แต่เรายังต้องจ่ายค่าบำรุงส่วนกลางทุกเดือน ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกนิติบุคคลที่ใส่ใจบริการด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันนิติบุคคลของโครงการนอกจากจะอำนวยความสะดวกเรื่องทั่วไปให้แก่ลูกบ้านแล้ว ยังช่วยดูแลเรื่องบริการทำความสะอาดและการปล่อยเช่าเพื่อช่วยลดภาระให้ลูกบ้าน ซึ่งหากใครเลือกซื้อบ้านเพื่อเป็นการลงทุนในอนาคต การเลือกโครงการที่มีบริการดูแลการปล่อยเช่าและมีรายละเอียดการบริการที่ชัดเจนยุติธรรม ก็ช่วยให้การบริหารเวลาของลูกบ้านนั้นสะดวกยิ่งขึ้น


CR: https://www.baanlaesuan.com/255153/ideas/house-ideas/checklist-buy-home