ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รุ่นใหม่ สำหรับเครื่องปรับอากาศ

        ตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) ร่วมกันทบทวนเกณฑ์ประสิทธิภาพ และมาตรฐานการทดสอบการประหยัดพลังงานใหม่ตามมาตรฐานของโลก สำหรับตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศจากเดิมที่ ใช้ค่าประสิทธิภาพ EER เปลี่ยนมาใช้เป็นค่าประสิทธิภาพตามฤดูกาล SEER ซึ่งวิธีการใหม่นี้มีความเสมือนจริงในการทดสอบมากขึ้น ซึ่งค่าทั้งสองแบบนั้นหมายถึงอะไร และมีความแตกต่างกันดังนี้

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ EER

        ค่าประสิทธิภาพ EER นั้นย่อมาจาก Energy Efficiency Ratio เป็นค่าที่ปรากฎอยู่บนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบเดิม มีหน่วยวัดเป็น บีทียู/ชั่วโมง/วัตต์ ซึ่งค่า EER นี้จะเป็นการวัดค่าการประหยัดพลังงานภายใต้เงื่อนไขที่อุณหภูมิภายนอกอาคาร นั้นคงที่ ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนไปจากสภาพความเป็นจริงได้ เนื่องจากอุณหภูมิภายนอกอาคารนั้นไม่ได้คงที่ตลอดทั้งปีแต่มีการแปรเปลี่ยน ไปตามแต่ละฤดูกาล

ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบ SEER

        ค่าประสิทธิภาพแบบใหม่ที่นำมาใช้กับเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นโดยค่า SEER นั้นจะปรากฎอยู่บนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป ค่า SEER นี้ย่อมาจาก Seasonal Energy Efficiency Ratio ซึ่งมีหน่วยวัดเป็น บีทียู/ชั่วโมง/วัตต์ เช่นเดียวกับค่า EER แต่ที่แตกต่างกันก็คือ SEER นั้นจะวัดค่าการใช้พลังงานภายใต้เงื่อนไขที่อุณหภูมิภายนอกแปรเปลี่ยนไปตาม ฤดูกาล ทำให้ค่า SEER นี้สามารถประเมินประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง มากกว่าค่า EER

พิจารณาค่า EER และค่า SEER อย่างไร

        ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศนั้น นอกจากจะเลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปรับอากาศหลายรุ่น หลายยี่ห้อที่ได้รับการรับรองฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบได้มากขึ้นไปอีกโดยพิจารณาค่า EER หรือค่า SEER ที่ปรากฎบนฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยยิ่งมีค่า EER หรือ SEER ที่มากกว่า ก็ยิ่งประหยัดไฟได้มากกว่า

รายการอ้างอิง:

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 (กฟผ.)